สำนึกรัก(ทีมฟุตบอล)บ้านเกิด

สำนึกรัก(ทีมฟุตบอล)บ้านเกิด
นี่คือสุดยอดทีมในจังหวัดอุตรดิตถ์ (เพราะมีทีมเดียวครับ)

วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เหรียญ..มี 2 ด้าน แต่...???


   

     ห่างหายจากการ update บล็อกไป  2-3  วัน  เนื่องจากงานยุ่ง ช่วงนี้เริ่มซาๆแล้ว ก็เลยได้กลับมาอีกครั้ง เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะครับ คือเป็นที่รับรู้กันมาแต่ดั้งเดิมของเกือบทุกคนว่า “เหรียญมี 2 ด้านเสมอ”  เมื่อต้องการแสดงความต่างของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นวัตถุ สิ่งของ บุคคล องค์กร หรืออีกมากมาย ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนว่า “มี 2 มาตรฐาน” “เลือกปฎิบัติ” หรืออาจจะแสดงถึงสิ่งที่เรารียกกันว่า “สันดาน” ของแต่ละสิ่งที่ไม่เหมือนกัน
     แต่โดยพื้นฐานเราจะเข้าใจว่า ถ้าจะ “คิด พูด กระทำ” จำเป็นต้องยืนบนพื้นฐานของคุณธรรม จริยธรรม กฎหมาย ธรรมเนียมปฎิบัติ ฯลฯ ที่คนหมู่มาก(ประชาธิปไตย) ซึ่งเป็นความเข้าใจเหรียญเพียงด้านเดียวเท่านั้น แต่เมื่อมีการแสดงออกซึ่งอีกด้านหนึ่งของเหรียญ ซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับ และต้องการของคนในสังคม ตัวเราเองที่รู้อยู่แล้วว่าเหรียญมี 2 ด้าน ไม่สามารถยอมรับสิ่งนั้นได้ง่ายๆ และปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ(แต่ไม่ใช่ตามยถากรรมนะครับ) คือผมกำลังจะบอกว่า “บางคน” รู้ว่าเหรียญมี 2 ด้าน แต่ทำใจ และปักใจเชื่อว่าเหรียญที่เราเอ่ยถึง ต้องแสดงออกมาเพียงด้านเดียวเท่านั้น ฉะนั้น เมื่อเหรียญด้านที่ 2 เผยตัวออกมาก็จะไม่ชิน ยอมรับได้ยาก แม้จะรู้แต่ต้นว่า “ด้านที่ 2” มันมีอยู่จริง....

วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Transformer 3 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้


    ก็ขออินเทรนด์บ้างแล้วกัน เบาๆสักนิ๊ด...ด.....ด....สำหรับวันนี้
    คือเมื่อวานได้มีโอกาสดู Transformer 3 สุดยอดหนัง action special effect ที่ทุนสูงมากเรื่องหนึ่ง และรายได้จากการเข้าฉายทั่โลกก็คงมีกำรี้กำไร ให้คนเบื้องหลังได้เอาไว้ซื้อกับข้าวกับปลาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องครอบครัวไป ได้บ้างสักระยะ..... ในส่วนที่ฮือฮาคือการที่ว่า TF3 ต้มคนดูด้วยเทคนิคด้านการตัดต่อหรืออะไรต่อมิอะไรอีกมากมายนั้น.... ที่นี่ ไม่ขอพูดถึง มันเป็นเรื่องอจินไตย ไม่ควรไปกังวลสนใจครับ เหมือนเรื่องไก่กับไข่นั่นแหละจ้า

    มาคุยตามประสาคนไร้สาระในแบบของผมดีกว่า... เริ่มแรกเลย ภาคนี้ดูเหมือนนางเอกจะแก่กว่าพระเอกหลายช่วงตัวอยู่ อันนี้วัดวัยด้วยใบหน้าและเป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆครับ ต่อมา...ภาคนี้ พระเอกโง่มากครับ พอๆกับป้าคนที่เป็นหัวหน้า CIA. หรืออะไรสักอย่างนั้นแหละ คนที่ใส่แว่นตานะ รู้เรื่องที่หลังเขาหมด แต่ตอนหลังๆสงสัยสารอดรีนาลีนหลั่งมากเป็นพิเศษเลยเก่งกลบรัศมีทหารอาชีพหมดเลย.... ส่วนเรื่องที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ อาจจมีคนพูดถึงไปบ้างแล้ว นั่นก็คือ.... หุ่นยนต์ทุกตัว ไม่ว่าจะสมบุกสมบันมาอย่างมากมาย โชกโชน จากฉาก/ซีนก่อนหน้านี้ พอมาฉากใหม่อยู่ในรูปของรถ..เงาวับ..ทุกคัน ไม่เชื่อลองนึกดูให้ดี

จุดต่อไปนี้ ไม่อยากจะพูด งั้น...สาธยายเลยแล้วกัน 555++ คือถ้าพระเอกและเพื่อนเป็นชาวญี่ปุ่น ตอนที่โดนสึนามิถล่ม(ขออภัยถ้าทำให้บางท่านสะเทือนใจครับ) คงไม่เกิดการสูญเสียเพื่อนร่วมโลกของเรามากมายขนาดนั้น ที่ผมพูดอย่างนั้นได้อย่างเต็มปาก เพราะตอนที่ตึกถล่ม(เอียง โค่น) พระเอกและผองเพื่อนรอดมาได้อย่างปลอดภัย..ส่วนคนธรรมดาที่เดินและวิ่งหลบอยู่ตามพื้นดินตายเรียบ
    
       เอาละครับ  หลังจากออกทะเลไปตกหมึก..เฮ้ย...บ้าไปแล้ว  เอาละมาถึงจุดที่คนที่ไร้สาระอย่างผมต้องเปล่งประกายซะที คือผมดูหนังของสตีเว่น ซีกัล มาหลายเรื่องนะ แต่ไม่เคยเห็นมีใครชกโดนหน้าเขาสักที... เหมือนกัน TF 3 ท้ายๆช่วงไคลแม๊กซ์ พระเอกกับนางเอกวิ่งสู้ฟัดกันน่าดู(อย่าคิดลึกเด้อ) หมายถึงสู้กับเหล่าร้ายนะ พระเอกหน้าตาอย่างมอมแมมเลย...แต่พอมาถึงตอนจบ ตอนที่พระเอกกับนางเอกกัดกัน  โปรดจงสังเกตุครับ พระเอกยังมอมเหมือนเดิม  แต่นางเอกใสปิ๊งเลย  หน้านี้นวลเชียว (สงสัยวิ่งผ่านร้านสปาก่อนมาเจอพระเอกชัวร์ 5555555
 *-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
ปล.ละครไทยผมเคยสังเกตนะครับ ว่าพระเอกตอนออกจากบ้านขับ BENZ พอถึงปลายทางกลายเป็น BMW เฉยเลย...... 
ปล.2 ต้องเข้าใจนะครับว่าคนมันมีเวลาไร้สาระเยอะอ่ะ เลยมีเวลาเล็งเยะ
ปล.3 สักวันจะเขียนความประทับใจกับหนังเกาหลีเรื่อง IL Mare ให้ได้ สัญญาครับ

วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

หลังจากตื่นนอนเราทำอะไรก่อน.....???

            
            เนื่องจากเป็นคนที่มีเรื่องไร้สาระในชีวิตเยอะ อยู่ว่างๆเลยย้อนกลับมามองว่า "หลังจากตื่น สิ่งแรกที่เราทำคืออะไร" หนึ่งคำถามมีหลายคำตอบ หนึ่งคำตอบก็คิดเหมือนกันหลายคน สรุปง่ายเอาตัวผมเป็นตัวอย่างแล้วกันครับ
            คำตอบแรกที่ตอนนั้น ยังไม่คิดมากกับชีวิตก็คือ "อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน" แต่เมื่อมีวัยที่เริ่มสูงขึ้น เรามักจะย้อนกลับไปมองอดีตด้วยวุฒิภาวะปัจจุบันของเรา คงมีบ้างที่เคยรำพึงในใจว่า “ตอนนั้น กูคิดและทำอย่างนั้นไปได้อย่างไรว่ะ”  จากนั้นผมก็พยามยามคิดเชิงบวก(ในที่นี้หมายถึงเข้าข้างตัวเอง)ว่า “วุฒิภาวะที่มาพร้อมกับวัยที่สูงขึ้น ก็คงเหมือนเราก้าวขึ้นบันไดที่ภูเขาทอง(วัดสระเกศ) คือยิ่งก้าวขึ้นบันไดได้มากขั้นเท่าไร ก็ยิ่งเห็นทิวทัศน์รอบๆข้างได้มากขึ้น”  แต่ก็อีกนั่นแหละ ว่างมาก(ไม่ใช่ว่าไม่มีงานหรือไม่ทำงานนะครับ)ก็เลยมีเวลาที่จะคิดไปเรื่อยๆอีกว่า แล้วทำไมบ้างคนถึงมีวุฒิภาวะที่เป็นผู้ใหญ่เกินวัย ผมที่มีวุฒิภาวะตามวัย(ตามทันบ้างไม่ทันบ้าง ก็ว่ากันไป) ก็อนุมานเอาเองว่า น้องเขาคงถูกฝึกอบรมให้แก่เกินวัย....เอ.....ไม่น่าใช่ น่าจะใช้คำผิดเอาใหม่..น้องเขาคงถูกฝึกมาเพื่อรับกับสังคมในอนาคตที่แดดมันจะแรงกว่าปัจจุบันมาก ซึ่งมีผลทำให้เด็กแก่แดด..ก่อนวัย...  นั่นงัยสุดท้ายก็ไม่ถูก... เลยเถิดไปใหญ่  ง่ายๆคือน้องเขาได้รับการศึกษาและฝึกอบรมมา(ไม่จำเป็นต้องอยู่ในโรงเรียนนะ) เพื่อให้ปรับตัวเข้ากับสังคมในอนาคต และอยู่รอดได้ ผมก็สร้างมโนภาพต่อไปว่า  ที่น้องเขามีความคิดเป็นผู้ใหญ่ทั้งที่วัยอ่อนกว่านี่ ก็คงเปรียบได้ว่าน้องเขาคงใช้กล้องแบบที่อยู่ในเรือดำน้ำอ่ะ คืออยู่บนบันไดขั้นที่ต่ำกว่า แต่ก็มองเห็นทิวทัศน์เท่ากับผมที่ยืนอยู่สูงกว่า ดีไม่ดีน้องเขาอาจให้ตัวช่วยอย่างอื่นอยู่ก็เป็นได้
          กลับมาที่เรื่องที่เราทำหลังจากตื่นนอนดีกว่า ว่าสิ่งแรกหรืออะไรที่เราทำก่อน อย่างที่บอกครับ ก่อนหน้านี้หลายปี คำตอบแรกของผมคือ "อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน"  แล้วมาเอะใจว่า “จริงหรือ” ก็ย้อนสเต็ปมาเรื่อยๆ ก่อนจะอาบน้านี่ มันต้องถอดเสื้อผ้าก่อนป่าว ก่อนถอดต้องลุกจากเตียง ก่อนลุกจากเตียง ต้อเอาผ้าห่มออกก่อน(แต่คืนใหนร้อน ไม่ได้ห่มผ้าก็เลิกคิด..555)  วุ่นวายไปใหญ่....  แต่ผมแน่ใจอย่างว่า ก่อนจะตื่นเราต้องหลับก่อน
         ทั้งนี้..ทั้งนั้น..ทั้งหมด..นั่น ก็เพียงแค่อยากบอกแนวคิดในการทำงานของผม ที่ได้รับการชี้แนะจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ ผมชอบนิสัย การวางตัวของท่าน และผมก็เคารพนับถือท่านเป็นอย่างสูง  คืออย่าคิดด่วนได้ ให้ย่อยทุกอย่างให้ละเอียด แล้วสร้างทางเลือกให้มากกว่าหนึ่งครับ สุดท้าย..ขอบคุณที่ทนอ่านจนจบ

วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

หมู 3 ชั้น



    เรื่องมีอยู่ว่า ลูกสาวคนโตของผมชื่อน้องบิว ตอนนั้นอายุน่าจะราวๆ 6-7 ขวบได้ วันหนึ่ง น้องบิวก็ไปจ่ายตลาดกับยายของเขา คุณยายก็เดินไปที่เขียงหมูและร้องถามคนขายว่าหมู 3 ชั้น โลละเท่าไร...แม่ค้าก็บอกราคามา คุณยายเลยบอกว่างั้นเอาหมู 3 ชั้นมา 3 กิโลแล้วกัน ฝั่งน้องบิวรีบสะกิดแขนคุณยายและบอกว่า “คุณยายหมู 3 ชั้น มันแพง เอาหมูชั้นเดียวก็พอ” คุณยายและแม้ค้าก็มองน่ากันไปมา คงคิดในใจว่า “เด็กนี่มันลูกใครหว่า... แล้วตูจะซื้อจะขายกันยังงัยล่ะเนี่ย.......

เรื่องของหนูกับแมว


    
    วันนี้  ขอเขียนถึงเรื่องใกล้ๆตัว ที่เกี่ยวกับบุคคลที่ผมเคารพนับถือ และมีห้องเช่าอยู่ติดกันครับ  ห้องเช่าที่ผมอยู่เป็นบ้านไม้ยกพื้นสูงพอสมควร น่าจะราวๆ 2 เมตรเห็นจะได้ มีห้องน้ำส่วนตัวของแต่ละห้องและอยู่แยกจากตัวบ้าน จะอยู่ติดกับหน้าต่างหลังบ้าน หลังคาหัองน้ำของผมจะต่ำกว่าของพี่เขาหน่อยนึง ของพี่เขาหลังห้องน้ำคาสูงเกือบเสมอหน้าต่างเลยทีเดียวเชียว ที่ๆผมอยู่มี 3 สิ่งที่ชุมพอๆกัน คือ ยุง หนู และแมวครับ
    ค่ำวันนึงหลังจากกินข้าวกินปลากันเสร็จ พี่เขาก็จะเข้านอนเพื่อที่ไปเข้างานกะดึก(เทียงคืน) เลยพูดคุยตามประสาคนสนิทคุ้นเคยกันว่า
     พี่ข้างห้อง “พี่อยากเปิดหน้าต่างนอนบ้างจัง ช่วงนี้อากาศร้อนมาก”
    ผมก็บอกพี่เขาว่า “พี่ก็เปิดสิครับ ผมยังเปิดหน้าต่างนอนทุกคืนเลย เย็นสบายดีมาก”
พี่ข้างห้อง “ใจจริงพี่ก็อยากเปิดแหละ แต่แถวบ้านเรา หนูและแมวมันชุม”
ผมเลยถามกลับไปว่า “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการเปิดหน้าต่างนอนละพี่”
พี่ข้างห้อง “พี่กลัวหนูและแมวมันปีนหลังคาห้องน้ำแล้วกระโดดเข้ามาในห้องพี่ทางหน้าต่างนะสิ”
ผมเลยรีบพูดให้พี่เขาหายกังวลว่า “พี่ พี่ไม่ต้องกลัวหรอก หนูมันกระโดดเข้ามา แล้วแมวกระโดดตามหลัง เดี๋ยวหนูกับแมวมันก็จัดการกันเองนั่นแหละ”
พี่เขาก็หัวเราะแบบขำๆ แล้วพูดว่า “ เดี๋ยวโดน... กวนตีนนะเรา”
จนวันนี้ ผมก็ยังงงว่า ผมไปกวนตีนพี่เขาตอนไหน แมวเจอหนูมันต้องจับหนูอยู่แล้ว.. พี่เขานี่กลัวอะไรไม่เข้าเรื่องจริงๆ